5 หุ้นแบงก์ถูกโบรกเกอร์เพิ่มเป้ากำไร-ราคาเป้าหมาย หลังงบ Q1/65 โตกว่าคาด ส่วนใหญ่จากการตั้งสำรองฯลดลง พบ KTB ถูกอัพกำไรขึ้นมากสุด 10.07 - 23.31% เป็น 2.5 - 2.8 หมื่นลบ. ราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 16 - 16.1 บ./หุ้น เพิ่มขึ้น 1 - 3.33 บ./หุ้น ส่วน KBANK ถูกอัพเป้าราคาขึ้นสูงสุด 5 - 18 บ./หุ้น เป้าใหม่อยู่ที่ 185 - 190 บ./หุ้น
*** หุ้นแบงก์กำไรโค้งแรก โต 14.43% หลังตั้งสำรองฯลด
หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 รวม 5.3 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14.43% จากปีก่อน โดยสาเหตุหลัก เป็นเพราะหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ มีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง
ขณะที่ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ประเมินว่า ผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 65 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุน จากการตั้งสำรองฯในช่วงที่เหลือของปี 65 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังเร่งตั้งสำรองฯจำนวนมากไปก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบกับ สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัว ตามกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัว
*** พบ 5 หุ้นแบงก์ ถูกโบรกฯ อัพเป้า หลังประกาศงบ
ทั้งนี้ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ได้สำรวจบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลังหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกาศงบการเงินไตรมาส 1/65 โดยพบว่ามี 5 ธนาคาร ถูกปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และราคาเหมาะสมขึ้น ประกอบด้วย
5 หุ้นแบงก์ ถูกโบรกเกอร์ปรับกำไร – ราคาเหมาะสมขึ้น
|
ชื่อย่อหุ้น
|
บล.
|
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.)
|
%chg
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
ปรับขึ้น (บ./หุ้น)
|
KTB
|
เคทีบีฯ
|
28,596
|
23.31
|
16
|
1.5
|
บัวหลวง
|
26,400
|
13.30
|
16.1
|
1.6
|
เอเชีย พลัส
|
25,880
|
10.37
|
16.1
|
3.3
|
ทรีนีตี้
|
27,303
|
10.07
|
16
|
1
|
KKP
|
ฟินันเซียฯ
|
7,616
|
12.43
|
86
|
12
|
เคทีบีฯ
|
7,608
|
11.00
|
84
|
7
|
หยวนต้า
|
7,610
|
9.80
|
81
|
5
|
เคจีไอ
|
6,877
|
9.02
|
81.5
|
9.5
|
พาย
|
7,266
|
3.01
|
82
|
3
|
บัวหลวง
|
7,100
|
2.53
|
80
|
2
|
TISCO
|
หยวนต้า
|
7,484
|
5.74
|
109
|
12.5
|
ฟิลลิป
|
7,600
|
1.33
|
116
|
10
|
KBANK
|
เคทีบีฯ
|
42,120
|
2.73
|
190
|
18
|
เมย์แบงก์ฯ
|
41,175
|
0.00
|
185
|
5
|
TTB
|
หยวนต้า
|
12,871
|
0.09
|
1.57
|
0.01
|
ที่มา : บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ณ 25 เม.ย.65
|
5 ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าว ส่วนใหญ่ถูกโบรกเกอร์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากประมาณการเดิม มีแค่ 1 ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ถูกนักวิเคราะห์เพียง 1 แห่ง ปรับราคาเหมาะสมขึ้น แต่ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ไว้ตามเดิม
*** KTB ถูกอัพเป้ากำไรสูงสุด 23.31%
ธนาคารกรุงไทย (KTB) เป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ถูกโบรกเกอร์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นมากที่สุด 10.07 - 23.31% โดยกำไรสุทธิ ที่ปรับขึ้นใหม่อยู่ที่ 2.5 - 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ ราคาเหมาะสมใหม่ อยู่ที่ 16 - 16.10 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากเดิม 1 - 3.3 บาท/หุ้น
สาเหตุหลัก ที่ทำให้นักวิเคราะห์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิ และ ราคาเหมาะสม หุ้น KTB ขึ้นจากเดิม เพื่อสะท้อน กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 ที่ทำได้สูงกว่าคาดการณ์ ประกอบกับ ได้ปรับลด Credit Cost ปี 65 ลงเหลือ 95 bps (เดิมคาด 120 bps) ประกอบกับ คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มเติบโตจากปีก่อนต่อเนื่อง ตามการตั้งสำรองฯที่จะลดลง
รองลงมา คือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ที่ถูกโบรกเกอร์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นใหม่อีก 2.53 - 12.43% โดยกำไรสุทธิ ที่ปรับขึ้นใหม่อยู่ที่ 6.8 - 7.6 พันล้านบาท ขณะที่ ราคาเหมาะสมใหม่ อยู่ที่ 80 - 86 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 - 12 บาท/หุ้น
สาเหตุหลัก ที่ทำให้นักวิเคราะห์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิ และ ราคาเหมาะสม หุ้น KKP ขึ้นจากเดิม เนื่องจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ที่ประกาศออกมาสูงกว่าคาด ประกอบกับ KKP กำลังเร่งขยายสินเชื่อที่มีคุณภาพในตลาดที่คู่แข่งกำลังล่าถอย ซึ่งทำให้ KKP สามารถได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ธุรกิจด้านตลาดทุน ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
*** KBANK ถูกอัพเป้าราคาสูงสุด 18 บ./หุ้น
ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ถูกโบรกเกอร์ ปรับราคาเหมาะสมขึ้นสูงสุด 5 - 18 บาท/หุ้น โดยราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 185 - 190 บาท/หุ้น ส่วนกำไรสุทธิปี 65 ถูกปรับขึ้นอีก 2.73% เป็น 4.1 - 4.2 หมื่นล้านบาท
สาเหตุหลัก ที่ทำให้นักวิเคราะห์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิ และ ราคาเหมาะสม หุ้น KBANK ขึ้นจากเดิม เนื่องจาก กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 สูงกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ ยังได้ปรับ Credit Cost ปี 65 ลดลงเหลือ 150 bps (เดิมคาด 160 bps) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากกลุ่มสินเชื่อกลุ่มท่องเที่ยวลดลง
*** อีก 2 แบงก์ ถูกอัพกำไรต่ำกว่า 10%
ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เหลืออีก 2 แห่ง ถูกโบรกเกอร์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นต่ำกว่า 10% ประกอบด้วย บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ถูกปรับราคาเหมาะสมขึ้นอีก 10 - 12.5 บาท/หุ้น โดยราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 109 - 116 บาท/หุ้น ส่วนกำไรสุทธิปี 65 ถูกปรับขึ้นอีก 1.33 - 5.74% เป็น 7.4 - 7.6 พันล้านบาท
สาเหตุหลัก ที่ทำให้นักวิเคราะห์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิ และ ราคาเหมาะสม หุ้น TISCO ขึ้นจากเดิม เนื่องจาก กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 สูงกว่าคาดการณ์ ประกอบกับ กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อนต่อเนื่อง ตามการตั้งสำรองฯที่จะทรงตัวในระดับต่ำ เพราะคุณภาพสินเชื่อค่อนข้างแข็งแกร่ง
ปิดท้ายด้วย ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ที่ถูกโบรกเกอร์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นจากเดิมอีก 0.09% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ ราคาเหมาะสมถูกปรับขึ้นอีก 0.01 บาท/หุ้น เป็น 1.57 บาท/หุ้น สะท้อนจากกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 สูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย