กองทุน "ทริกเกอร์ฟันด์" ตบเท้าสร้างผลตอบแทนเข้าเป้าก่อนกำหนด รับตลาดหุ้นฟื้นทั่วโลก ตั้งแต่ Q4/63 ผลงานแตะเป้าไปแล้ว 8 กองทุน ใช้เวลาน้อยเพียง 10 วัน - 4 เดือน บลจ.วรรณ ผลงานเด่นสุด แต่กูรูเตือนศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ เหตุความเสี่ยง-ค่าธรรมเนียมสูงกว่ากองทุนปกติ
*** 8 ทริกเกอร์ฟันด์ผลงานเข้าเป้า
8 กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ทำผลงานเข้าเป้า
|
บลจ.
|
ชื่อย่อกองทุน
|
% เป้าผลตอบแทน
|
ระยะเวลา (เดือน)
|
เวลาที่เข้าเป้า (เดือน)
|
บัวหลวง
|
TRIGGER 9-21*
|
8
|
12
|
4
|
แอสเซทพลัส
|
ASP-TRIGGER 6M1
|
6
|
6
|
2
|
อินโนเทค
|
I-TEP1
|
5
|
5
|
10**
|
วรรณ
|
ONE-GLOBALTOP8M*
|
8
|
8
|
2
|
วรรณ
|
ONE-GLOBALTOP8M2*
|
8
|
8
|
2
|
วรรณ
|
ONE-GLOBALTOP8M3
|
8
|
8
|
3
|
วรรณ
|
ONE-GLOBALTOP8M4
|
8
|
8
|
3
|
วรรณ
|
ONE-GLOBALTOP8M5
|
8
|
8
|
3
|
* เสนอขายช่วงไตรมาส 3/63 ที่เหลือเสนอขายช่วงไตรมาส 4/63
** I-TEP1 ใช้เวลา 10 วันทำผลงานได้ตามเป้าหมาย
|
ทั้งนี้มี 4 กองทุนทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายช่วงต้นปีนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 9-21 (TRIGGER 9-21) ของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง ซึ่้งลงทุนในหุ้นไทย และ กองทุนเปิดวรรณ โกลบอล ท็อป 8M กองที่ 3-5 (ONE-GLOBALTOP8M3,ONE-GLOBALTOP8M4,ONE-GLOBALTOP8M5) ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยทั้ง 4 กองทุนดังกล่าว ให้ผลตอบแทนระดับ 8% ภายในระยะเวลาเพียง 3-4 เดือนเท่านั้น
"พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง ระบุว่า หลังจากที่ประเมินว่าหุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อช่วงกลางปี และเข้าสู่การฟื้นตัวจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เริ่มคลี่คลาย ทั้งโรคระบาด วิกฤษเศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งทำให้มองเห็นโอกาสในการเข้าลงทุน
“เราใช้การจับจังหวะซื้อขายหุ้นรายตัวแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนอื่นที่เน้นการลงทุนระยะยาว และในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงและเป็นขาขึ้น ประกอบกับการคัดเลือกหุ้นที่แม่นยำของทีมผู้จัดการกองทุน จึงทำให้กองทุน TRIGGER 9-21 ทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมาย 8% ในเวลาอันสั้น” พีรพงศ์ กล่าว
ขณะที่ กองทุนเปิด อินโนเทค ทริกเกอร์ ฟันด์ อีพี1 (I-TEP1) ของ บลจ.อินโนเทค ใช้เวลาน้อยสุดเพียง 10 วัน (ข้อมูล ณ 25 พ.ย.63) ก็สามารถทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย 5% จากเดิมที่กำหนดไว้ 5 เดือน
"สุรเชษฐ์ ศรีวัฒนกุลวงศ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อินโนเทค แสดงความเห็นว่า "เรามีมุมมองสวนทางกับกูรูในตลาดหุ้น โดยคาดการณ์ไว้ว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี จากแรงหนุนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ การค้นพบวัคซีน กำไรสุทธิต่อหุ้นซึ่งผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายปี ซึ่งก็เป็นไปตามคาด จึงทำให้ผลตอบแทนถึงเป้าหมายเร็วกว่ากำหนด" สุรเชษฐ์ เผย
*** บลจ.วรรณ อวด "ทริกเกอร์เกอร์ฟันด์เข้าเป้า 7 กองรวด"
ทั้งนี้ กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ของ บลจ.วรรณ สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายก่อนกำหนดถึง 7 กอง โดย กองทุนเปิดวรรณ โกลบอล ท็อป 8M กองที่ 1-5 (ONE-GLOBALTOP8M,ONE-GLOBALTOP8M2,ONE-GLOBALTOP8M3,ONE-GLOBALTOP8M4,ONE-GLOBALTOP8M5) ซึ่งเริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/63 ทำผลตอบแทนได้ 8% ภายในระยะเวลาเพียง 2-3 เดือน จากกำหนดเดิมคือ 8 เดือน
ขณะที่ กองทุนเปิดวรรณ โกลบอล ท็อป 8M กองที่ 6-7 (ONE-GLOBALTOP8M6,ONE-GLOBALTOP8M7) สามารถสร้างผลตอบแทนแตะผ่านทริกเกอร์แรกในระดับราคา NAV ประมาณ 10.40 บาทต่อหน่วย หรือ 4% ตามเป้าหมาย โดยได้ทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
"พจน์ หะริณสุต" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า กองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ "วรรณ โกลบอล ท็อป 8M" ทำผลงานได้ตามเป้าหมายแล้ว 7 กอง โดย 5 กองแรกทำผลตอบแทนแตะ 8% และรับซื้อคืนไปแล้ว ส่วนกองที่ 6-7 ก็สามารถผ่านทริกเกอร์ครั้งแรกแล้ว
ด้านกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M8 (ONE-GLOBALTOP8M8) ที่ได้เปิดเสนอขายไปเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเกินคาดหมาย โดยทางบริษัทฯ ต้องทำการจัดสรรหุ้นส่วนเกินจากจำนวนหุ้น (กรีนชู ออปชั่น) เพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และเพื่อสร้างโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตามภาวะตลาดในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 21-27 ม.ค.นี้ บริษัทฯ จะทำการเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M9 (ONE-GLOBALTOP8M9) เพิ่มเติม
"นโยบายการลงทุนของเราเป็นแบบยืดหยุ่น เน้นกระจายการลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศเป็นสัดส่วนหลัก และส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรภาครัฐบาล ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถการคัดเลือกและปรับเปลี่ยนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมายที่ 8% ในระยะเวลา 8 เดือน
ที่ผ่านมาได้เน้นลงทุนใน Baillie Gifford Long Term Global Growth กองทุน Baillie Gifford Worldwide Discovery และกองทุน UBS Lux Equity SICAV – All China เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีตามเป้าหมาย โดยกองทุนทั้ง 3 ที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพและมีความสามารถในการแข่งขันสูง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ กล่าว
*** กูรูเตือนศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เหตุเสี่ยงสูง
"ชณานี จึงมานนท์" นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันหุ้นไทยผันผวนทำให้ บลจ.ใช้กลยุทธ์ออกกองทุนใหม่ประเภททริกเกอร์ฟันด์เข้ามาจูงใจผู้ลงทุน ยิ่งมีหลายกองทุนประสบความสำเร็จก่อนกำหนด ทำให้สร้างแรงกดดันให้ บลจ.อื่นต้องออกกองทริกเกอร์ฟันด์เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้มองว่าเป็นการสร้างพฤติกรรมการลงทุนที่ไม่ดี กับนักลงทุน โดยส่วนตัวมองว่าควรสร้างพฤติกรรมการลงทุนระยะยาวมากกว่า ที่สำคัญมีความเสี่ยงสูง และไม่ใช่ว่าทุกกองทุนประเภทนี้จะทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายเสมอไป รวมถึงมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่ากองทุนปกติด้วย นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมี "ทริกเกอร์ ฟันด์" คงค้างในระบบและทำผลตอบแทนได้ยังไม่ถึงเป้าหมายกว่า 30 กอง มูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 3 พันล้านบาท
"เสกสรร โตวิวัฒน์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง เสริมว่า "ทริกเกอร์ฟันด์" เป็นกองทุนรวมรูปแบบหนึ่งที่กำหนดเป้าหมายผลตอบแทนภายในระยะเวลาที่จะทำให้ถึง กองทุนประเภทนี้จะเป็นกองทุนหุ้น กองทุนทองคำ หรือกองทุนผสมก็ได้ แล้วแต่บริษัทจัดการกองทุนจะออกแบบมา อาจจะลงทุนในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ทั้งหมด ความเสี่ยงก็คือตราสารที่ลงทุน มีราคาผันผวนแบบไหน การตัดสินใจหรือการดำเนินงานของทีมจัดการลงทุน หรือผู้จัดการกองทุนที่ดูแลกองทุนนั้น คือความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องยอมรับและเข้าใจ
"การลงทุนทริกเกอร์ฟันด์นั้น ขัดกับหลักการลงทุนระยะยาวหรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับเจตนาของการออกกองทุนมากกว่า ซึ่งปกติกองทุนบัวหลวงให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาว และเป็นปรัชญาการลงทุนของเรามาตลอด
แต่เราจะออกทริกเกอร์ฟันด์ เป็นลักษณะของการลงทุนระยะสั้นๆ เมื่อเราเห็นโอกาส เราไม่ได้บอกว่าทริกเกอร์ฟันด์ ดี หรือเสี่ยงเกินไป แต่ในช่วงที่มีโควิด-19 เกิดขึ้นแบบนี้ ถือเป็นโอกาสอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นตกลงไปต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานหลายตัว หรือราคาที่เราคิดว่าพร้อมที่จะกลับมา เป็นโอกาสของการเก็บจังหวะสั้นๆ
ซึ่งทริกเกอร์ฟันด์ ออกมาโดยที่ไม่ได้ทำลายเรื่องปรัชญาการลงทุนระยะยาว ถ้าเรารู้ว่าจังหวะไหนที่ควรจะออกกองทุน เพราะทุกคนก็ต้องการผลตอบแทน และเมื่อเราเห็นว่าเป็นจังหวะที่จะมีโอกาสลงทุนและได้ผลตอบแทนเราถึงออก แต่ไม่ใช่ว่าออกทริกเกอร์ฟันด์ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ลงทุนเข้ามาลงทุนแต่ในระยะสั้นๆ แล้วออกไป แบบนี้ไม่เหมาะ" เสกสรร กล่าว