นักวิเคราะห์และผู้บริหารกองทุน แนะนำกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนช่วงตลาดผันผวนด้วย กองกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund), ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ชี้จุดเด่นจ่ายเงินปันผลระดับสูงและสม่ำเสมอ พร้อมเปิดโผ 10 กองทุนจ่อแจกยีลด์ปันผลปี 64 ระดับ 4.2-11.9%
*** กูรูชี้ได้เวลาเก็บกองทุนอสังหาฯ - REIT - โครสร้างพื้นฐาน รับยีลด์ปันผลมากกว่า 5%
"พิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์" ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย ระบุว่า การลงทุนใน REIT, กองทุนรวมอสังหาฯ และ IFF ถือว่ามีความจำเป็น เพื่อบาลานซ์พอร์ต แม้ว่าผลตอบแทนด้านราคาหน่วยลงทุนส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงขาลง จากความกังวลผลกระทบของโควิด-19 ที่ยังระบาดอยู่ แต่การลงทุนกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างปลอดภัย (Defensive) ความผันผวนต่ำ และมีปันผลตอบแทนสูงสม่ำเสมอ เฉลี่ยมากกว่า 5% ซึ่งควรมีไว้ในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงราว 20-30%
เช่นเดียวกับ "ไพรัช มิคะเสน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และทรัสต์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย มองว่า กองทุนอสังหาฯ และ REIT รวมถึง IFF ยังน่าสนใจ แม้จะยังมีแรงกดดันจากโควิด-19 แต่มีจุดเด่นคือเงินปันผลระดับมากกว่า 5% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งราคาหน่วยลงทุนที่ปรับตัวลดลง เป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว
ขณะที่ระยะถัดไป มีโอกาสที่ราคาหน่วยลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้ปรับตัวสูงขึ้นได้ จากแนวโน้มที่ธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลดีจากการมีวัคซีนโควิด-19 เป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีความต้องการใช้พื้นที่ปรับตัวดีขึ้น และจะสะท้อนไปที่ผลประกอบการ ส่งผลให้มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจมากขึ้น
ด้าน "ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า โควิด-19 ระลอกใหม่รุนแรงขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลต่อกลุ่มกองทุนอสังหาฯ และ REIT ระยะสั้น โดยราคาได้ปรับตัวลงมาพอสมควร แต่คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yiel) ในปีนี้ยังอยู่ระดับสูงกว่า 5% ถือว่า น่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น เหมาะกับการถือลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนสม่้ำเสมอในระยะยาว โดยสามารถทยอยเข้าสะสมได้
"วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า การเข้าลงทุนในกองทุนอสังหาฯ - REIT และโครงสร้างพื้นฐานฯ เหมาะกับการลงทุนในระยะกลาง - ยาว เพราะมีการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงเมื่อเทียบกับหุ้น โดยเลือกสะสมกองทุนที่ยังมีรายได้สม่ำเสมอ เช่นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่เชื่อมโยงกับการสื่อสาร ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มากนัก
*** เปิดสถิติ 3 ปีหลังแจกยีลด์เฉลี่ย 6%
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลอัตราเงินปันผลตอบแทน 3 ปีย้อนหลัง (2561-2563) ของกองทุนรวมอสังหาฯ, REIT และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งหมด 69 กองทุน ซึ่งเกือบทั้งหมดมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ Dividend Yield เฉลี่ยระดับ 5.93% มีเพียง 6 กองทุนเท่านั้นที่ไม่มีข้อมูลการจ่ายปันผล โดย 20 อันดับแรกที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผล 3 ปีหลังสูงสุดได้แก่
20 กองทุนรวมอสังหาฯ – REIT – IFF ที่มี Div.Yield ช่วง 3 ปีหลังสูงสุด
|
ชื่อย่อ
|
%Div. Yield ปี 63
|
%Div. Yield ปี 62
|
%Div. Yield ปี 61
|
%Div. Yield เฉลี่ย 3 ปี
|
ABPIF
|
9.9
|
11.68
|
14.14
|
11.91
|
M-PAT
|
10.17
|
12.07
|
7.21
|
9.82
|
MJLF
|
9.84
|
7.82
|
7.22
|
8.29
|
POPF
|
9.49
|
7.71
|
7.67
|
8.29
|
QHHR
|
10.71
|
6.35
|
7.2
|
8.09
|
CPNCG
|
9.48
|
7.67
|
6.39
|
7.85
|
QHPF
|
10.14
|
6.76
|
6.51
|
7.80
|
M-STOR
|
6.97
|
7.36
|
8.9
|
7.74
|
SPF
|
10.7
|
5.97
|
6.52
|
7.73
|
JASIF
|
7.17
|
6.38
|
9.1
|
7.55
|
LHHOTEL
|
11.1
|
5.64
|
5.38
|
7.37
|
TLHPF
|
8.51
|
6.73
|
6.7
|
7.31
|
TTLPF
|
7.3
|
6.88
|
7.35
|
7.18
|
LHPF
|
8.98
|
5.97
|
6.4
|
7.12
|
CPNREIT
|
8.54
|
4.94
|
N/A
|
6.74
|
CPTGF
|
7.85
|
6.22
|
6.12
|
6.73
|
M-II
|
7.83
|
6.34
|
5.87
|
6.68
|
EGATIF
|
6.55
|
6.37
|
7.05
|
6.66
|
AMATAR
|
7.3
|
5.66
|
6.9
|
6.62
|
HPF
|
5.63
|
6.77
|
7.35
|
6.58
|
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข้อมูล ณ 14 พ.ค.64
|
*** โบรกเกอร์ชี้เป้า 10 กองทุนแจกยีลด์ปี 64 4.2-11.9% แถมอัพไซด์สูง
ทั้งนี้เมื่อสำรวจกองทุนอสังหาฯ - REIT และโครงสร้างพื้นฐานฯ ที่มีบทวิเคราะห์รองรับ พบว่า มีทั้งหมด 10 กองทุน ที่ถูกคาดการณ์จ่ายปันผลปีนี้มากกว่า 4% ประกอบด้วย
10 กองทุนรวมอสังหาฯ – REIT – IFF ที่มีบทวิเคราะห์รองรับ
|
ชื่อย่อ
|
ราคาปิด 14 พ.ค. (บ.)
|
%chg YTD
|
%Div. Yield ปี 64
|
ราคาเหมาะสม (บ.)*
|
%อัพไซด์
|
PROSPECT
|
9.25
|
6.94
|
11.9
|
11.3
|
22.16
|
JASIF
|
9.75
|
2.63
|
10.2-10.5
|
9.2-13.8
|
14.87 - 41.54
|
DIF
|
11.8
|
-8.53
|
8.6-8.9
|
14.2-14.5
|
20.34 - 22.88
|
DREIT
|
4.5
|
5.14
|
8.2
|
5.2
|
15.56
|
GVREIT
|
10.3
|
-20.16
|
8.2
|
10.15
|
-1.46
|
BTSGIF
|
5
|
-7.41
|
7.8
|
6.6
|
32
|
CPNREIT
|
19.2
|
1.05
|
6.3-6.5
|
20.2-24
|
5.21 - 25
|
WHART
|
13.1
|
-1.5
|
5.8
|
14.2
|
8.4
|
FTREIT
|
13
|
11.11
|
5.1
|
17
|
30.77
|
TFFIF
|
8.5
|
-12.37
|
4.2
|
8.9
|
4.71
|
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทยรวบรวมข้อมูล ณ 14 พ.ค.64
* ราคาเหมาะสมจากบทวิเคราะห์
|
10 กองทุนข้างต้นประกอบด้วย REIT จำนวน 6 กองทุน และ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 4 กองทุน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลตั้งแต่ 4.2-11.9% ขณะที่ส่วนใหญ่ราคาหน่วยลงทุนยังมีอัพไซด์ต่อราคาเหมาะสม มีเพียง 1 กองทุนเท่านั้นที่เกินมูลค่าไปแล้ว
ทั้งนี้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT) นักวิเคราะห์ บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ คาดว่า อัตราเงินปันผลตอบแทนปี 64 จะสูงถึง 11.9% ขณะที่ราคาปัจจุบันมีอัพไซด์จากราคาเหมาะสมถึง 22.16%
ขณะเดียวกันมี 3 กองทุนที่มีบทวิเคราะห์รองรับมากกว่า 1 แห่ง ประกอบด้วย 1.กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) โดยถูกคาดการณ์ว่าอัตราเงินปันผลตอบแทนปี 64 จะอยู่ที่ 10.2-10.5% ส่วนราคาล่าสุดมีอัพไซด์ 14.87 - 41.54%
2.กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) นักวิเคราะห์คาดยีลด์ปันผลปี 64 อยู่ที่ 8.6-8.9% ราคาล่าสุดมีอัพไซด์ 20.34-22.88%
3.ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) นักวิเคราะห์คาดอัตราเงินปันผลตอบแทนปีนี้ 6.3-6.5% ราคาล่าสุดมีอัพไซด์ 5.21-25%