309 กองทุนหุ้นไทยฟื้นตามดัชนีฯ เปิดสถิติสิ้น Q1/64 แจกผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังเป็นบวกทั้งหมด สูงสุด 137.2% ต่ำสุด 14.9% มูลค่าทรัพย์สินรวม 2.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน วงการคาดระยะยาวไปต่อ เชื่อโควิด-19 ระลอกใหม่กระทบแค่ระยะสั้น
*** AUM กองทุนหุ้นไทย Q1/64 เพิ่ม 15.7%YoY
"ชญานี จึงมานนท์" นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมกองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF, RMF และ SSF) จำนวน 309 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) ณ สิ้นไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 5% จากสิ้นปี 63 สะท้อนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยจากช่วงต่ำสุด โดย SET TR ช่วง 1 ปี +45%
ปัจจุบันกองทุนรวมไทยมีสัดส่วนกองทุนตราสารทุนในประเทศเกือบ 20% ทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นไทยส่งผลโดยตรงกับอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ เพราะไตรมาส 1/64 ดัชนี SET TR ให้ผลตอบแทนถึง 10.5%
สำหรับอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย (เฉพาะกองทุนเปิด ไม่รวมกองทุนปิด, ETF, REIT, Infrastructure fund) สิ้นไตรมาส 1/64 มีทรัพย์สินสุทธิ 4.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 2.6% จากสิ้นปี 63 โดยไตรมาสแรกมีเงินไหลเข้าสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ไหลเข้ากองทุนรวมตราสารทุน หลังตลาดทุนทั่วโลกคลายกังวลจากโควิด-19
ทั้งนี้ กองทุนรวมตราสารทุนมีสัดส่วนเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/64 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/63 ประมาณ 15% แล้วเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/63 ถึง 57% คิดเป็นสัดส่วน 36% ของกองทุนรวมทั้งหมด จากช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 29%
*** กองทุนหุ้นกลาง-เล็ก แจกยีลด์เฉลี่ยสูงสุดถึง 68%
ณ สิ้นไตรมาส 1/64 กองทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก (Equity Small/Mid-Cap) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1 ปีย้อนหลังถึง 68% (สูงสุด 137.2% ต่ำสุด 21.5%) ขณะที่ ม.ค.-มี.ค.64 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 18.3% โดยกองทุนกลุ่มนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากสิ้นปี 63
สำหรับกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) ณ สิ้นไตรมาส 1/64 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1 ปีย้อนหลัง 38.8% (สูงสุด 74% ต่ำสุด 14.9%) ส่วน ผลตอบแทน ม.ค.-มี.ค.64 อยู่ที่ 12.4% โดยกองทุนกลุ่มนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากสิ้นปี 63
10 อันดับกองทุนหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงสุด ณ สิ้นไตรมาส 1/64
|
รหัสกองทุน
|
บลจ.
|
% 1 Year Return
|
% 3 Month Return
|
% 5 Year Return
|
TLMSEQ
|
ทาลิส
|
137.2
|
30.3
|
N/A
|
KTMSEQ
|
กรุงไทย
|
118.5
|
26
|
10.5
|
TSF-A
|
ทิสโก้
|
106.7
|
22.1
|
17.3
|
KKP SM CAP
|
เกียรตินาคินภัทร
|
106.6
|
21.9
|
N/A
|
M-MIDSMALL
|
เอ็มเอฟซี
|
106
|
35.2
|
14.7
|
TISCOMS-A
|
ทิสโก้
|
105.4
|
24.5
|
8.8
|
KT-mai
|
กรุงไทย
|
101.5
|
22.4
|
5.6
|
ASP-SME
|
แอสเซท พลัส
|
95.8
|
19.5
|
N/A
|
UTSME
|
ยูโอบี
|
85.7
|
21.8
|
8.4
|
T-SM CAP
|
ธนชาต
|
81.7
|
18.8
|
6
|
ที่มา : มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) โดยกองทุนข้างต้นไม่รวม LTF, RMF และ SSF
|
*** คาดกองหุ้นไทยไปต่อระยะยาว
นักวิเคราะห์อาวุโส "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)" ประเมินว่า กองทุนหุ้นไทยระยะสั้นอาจจะขาดปัจจัยบวก เพราะยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ ซึ่งกดดันตลาดหุ้นไทยอยู่ และอาจทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นไทยอย่างจำกัด
แต่มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว สะท้อนจากช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงปีก่อน หลายกองทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงในช่วงที่ตลาดเริ่มฟื้นตัว
ทั้งนี้ ช่วงที่ตลาดผันผวนนักลงทุนควรเน้นวางแผนพอร์ตการลงทุนอย่างเป็นระบบตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนของตนเอง
ด้าน "วศิน วณิชย์วรนันต์" นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ประเมินว่า กองทุนรวมหุ้นไทยยังมีน่าสนใจลงทุนในระยะยาว เพราะตลาดทุนไทยเริ่มปรับตัวได้ หลายธุรกิจ หลายบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เข้าสู่ภาวะฟื้นตัว ส่วนการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อตลาดทุนไทยเหมือนปีก่อน