"บัตรกรุงไทย(KTC)" คาดกำไรปี 65 ไม่ต่ำกว่า 6,000 ลบ. สอดคล้องกับรายได้ที่ทำนิวไฮต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว-โควิดคลี่คลาย พร้อมดันพอร์ตสินเชื่อคงค้างพุ่งแตะ 1 แสนลบ. ส่วนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรคาดโต 10% ด้านโบรกฯ คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มฟื้นตัวไปถึงปี 66 ให้เป้า 68-82 บาท/หุ้น
*** KTC มั่นใจรายได้-กำไร ปี 65 ทำนิวไฮ หลังศก.ฟื้น-โควิดคลี่คลาย
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยในงาน "Opportunity Day"ว่า กำไรของบริษัทในปี 65 ไม่ควรต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดี หลังจากเริ่มเปิดประเทศตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากในปีนี้กำไรของบริษัทถูกกระทบจากการตั้งสำรองที่เกิดขึ้นครั้งเดียวของ บริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง(KTBL)
นอกจากนี้ในปี 65 บริษัทได้ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่ 95,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างหารือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เพื่อปรับเป้าเป็นโตเกิน 100,000 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าอยู่ในวิสัยที่ทำได้
"ตัวเลขพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่เสนอคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) ไว้คือจะปิดที่ 95,000 ล้านบาทได้ในปี 65 แต่เราเห็นโอกาสว่าจะเติบโตได้อีกจึงหารือกับธนาคาร และธนาคารเห็นว่าหากจะปรับพอร์ตแตะ 100,000 ล้านบาทนั้นอยู่ในวิสัยที่ทำได้ โดยธนาคารจะร่วมมือและกำหนดเป้าให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามจะต้องดูในเรื่องรายจ่ายด้วย เพราะการโตของพอร์ตก็จะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายกับการเติบโตด้วย ดังนั้นจะต้องทำให้แน่ใจ ส่วนกำไรหากดูแล้วปี 65 ก็ไม่ควรต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท หลังจากในปีนี้กำไรถูกกระทบจากการตั้งสำรองที่เกิดขึ้นครั้งเดียวของ บริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง(KTBL)" นายระเฑียร กล่าว
ส่วนการรวมหนี้ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าจะเป็นผลดีกับบริษัท เนื่องจากการเข้ามาตรการดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ที่เสี่ยงหรืออยู่ในเกณฑ์มีปัญหา ซึ่งบริษัทมองว่าหากรวมหนี้บริษัทจะได้รับการชำระหนี้ครบ จึงเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย
*** วางเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตมากกว่า 10%
ด้านนายชุติเดช ชยุติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน KTC กล่าวว่า ในปี 65 คาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต (Spending) จะเติบโต 10% ขณะที่ Personal Loan คาดว่าจะเติบโต 7% ส่วนการปล่อยสินเชื่อพี่เบิ้มในปี 65 คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ โดยปัจจุบัน NPL อยู่ที่ 3.8% ณ ไตรมาส 3/64
ขณะที่การชำระราคาซื้อขายหุ้นสามัญของ KTBL ในส่วนที่เหลือ คาดว่าจะชำระราคาภายหลังการตรวจสอบตามเงื่อนไขเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ย.64 โดยมูลค่ารวมอาจมีการปรับราคาซื้อขายหุ้นต่ำลงหรือสูงขึ้นตามเงื่อนไขการชำระราคา โดยจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 29-30 พ.ย. นี้ โดยภายหลังการชำระราคาเรียบร้อยแล้วนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสำรองเพิ่มเติมใน KTBL โดยจะเป็นรายการที่เกิดขึ้นในครั้งเดียว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรในปีนี้ แต่ยืนยันว่า จะเห็นผลกระทบจากรายการพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น รวมทั้งยืนยันว่า จะไม่กระทบกับการต่ายเงินปันผลอย่างแน่นอน
*** โบรกฯ คาดกำไรเริ่มฟื้นตัว ชูเป้า 68-82 บาท/หุ้น
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 4/64 ถึงปี 66 ของ KTC จะฟื้นตัว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สูญรับคืน และการลดลงของต้นทุนทางการเงิน พร้อมคงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 68 บาทต่อหุ้น
ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” KTC ให้ราคาพื้นฐาน 82 บาท เนื่องจากยังคงประมาณการกำไรปี 65 ไว้ที่ 6,700 ล้านบาท หลังมองว่าการจับจ่ายจะฟื้นตัวหลังคลายล็อคดาวน์