"พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" เคาะเพิ่มทุน PPล็อตแรก 300 ล้านหุ้น ขายหุ้นละ 1 บาท สูงกว่าราคาตลาดให้ "พรทิพย์ เฮมบรี" นักธุรกิจที่มีประสบการณ์พัฒนาอสังหาฯ ตุนเงินทุนก้อนแรก 300 ลบ.รองรับซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการปีหน้า ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ มูลค่า 2.6 หมื่นลบ. พร้อมตั้งเป้ารายได้ที่ 2.3 หมื่นลบ.
*** ขายเพิ่มทุน PP ล็อตแรก 300 ล้านหุ้น
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงล็อตแรก จำนวน 300 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท จากที่ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้ทั้งสิ้น 1,300 ล้านหุ้น โดยจะขายหุ้นละ 1 บาท ให้แก่นางพรทิพย์ เฮมบรี ซึ่งเป็นนักลงทุนเฉพาะเจาะจง และเป็นบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัท บริษัทย่อย บริษัทในเครือหรือบริษัทร่วมของบริษัท กำหนดวันเสนอขายและชำระเงินค่าหุ้นดังกล่าวในระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 59
สำหรับราคาเสนอขายดังกล่าว เป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดของหุ้นของบริษัทจำนวน 0.11 บาท คิดเป็น 112.36% ของราคาตลาด โดยราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้อนหลัง 15 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้
*** "นางพรทิพย์ เฮมบรี" ขึ้นแท่นถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 6
หลังจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 300 ล้านหุ้นแล้ว จะทำให้นางพรทิพย์ เฮมบรี กลายเป็น
ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 6 หรือมีสัดส่วนการถือหุ้น 3.76% แทนที่ บริษัท ไทย เอ็นวีดีอาร์ จำกัด ที่มีสัดส่วนการถือหุ้น 3.62% แต่จะไม่เข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยหรือในเครือทั้งสิ้น
"นางพรทิพย์ เฮมบรี" เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์ลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีความรู้ความสามารถและสามารถชักชวนนักลงทุนรายอื่นให้เข้ามาลงทุนในโครงการต่าง ๆ ทั้งของบริษัทและบริษัทในกลุ่มซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต
*** นำเงินเพิ่มทุนซื้อที่ดินพัฒนาโครงการปี 60
ความจำเป็นในการเพิ่มทุนครั้งนี้ คณะกรรมการมีความเห็นว่า เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา และตามแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2560 บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 20 โครงการโดยมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 26,000 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทมีสินค้าเพียงพอที่จะสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทจึงจำเป็นต้องมีเงินทุนส่วนหนึ่งสำรองไว้เพื่อซื้อที่ดินใหม่เพื่อรองรับการก่อสร้างโครงการทั้งหมด
ในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทในกลุ่ม
ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทจึงได้พิจารณาและอนุมัติให้บริษัททำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจงดังกล่าวข้างต้น ซึ่งเป็นนักลงทุนที่มีศักยภาพในด้านเงินทุนและมีความสนใจที่จะซื้อหุ้นของบริษัทโดยตรงและเป็นราคา ที่สูงกว่าราคาตลาดในช่วงที่เสนอขายทำให้มีความแน่นอนที่บริษัทจะได้รับเงินทุนตามจำนวน ที่ต้องการภายในระยะเวลาอันสั้น รวมทั้งไม่เป็นการสร้างภาระให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
*** เป้ารายได้ปีนี้ 1.5 หมื่นลบ.-ปีหน้า 2.3 หมื่นลบ.
ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้จากเดิม 1.7 หมื่นล้านบาท เหลือ 1.5 หมื่นล้านบาท จากปี 58 ที่มีรายได้ 1.29 หมื่นล้านบาท และปรับลดยอดขายจากเดิม 1.7 หมื่นล้านบาท เหลือ 1.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในปีนี้อยู่ในขั้นซบเซา
บริษัทฯ เปิดโครงการใหม่ปีนี้ได้เพียง 8 โครงการ มูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท จากเดิมคาดเปิด 16 โครงการ ส่งผลให้ 8 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ต้องถูกเลื่อนไปในปี 60 เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงถวายความอาลัย ทำให้บริษัทฯ ทำการตลาดได้ค่อนข้างยาก รวมถึงกำลังซื้อชะลอตัว นอกจากนี้ แผนการขายที่ดินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ได้ถูกเลื่อนออกไปเช่นกัน
ส่วนปี 60 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ 2.3 หมื่นล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)มูลค่า 1,800 ล้านบาท โดยจะนำสินทรัพย์ประเภทโรงแรมในเครือของบริษัทฯ มาจัดตั้งกองทุน
*** วงการประเมินราคาพื้นฐาน 1.05 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเมินราคาพื้นฐาน 1.05 บาท ประเมินด้วย P/BV ที่ 0.7 เท่า ซึ่งเทียบเท่า P/E ปี 60 ที่ 15.9 เท่า คาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้และปีหน้าเป็น 4% และ 3.4% ตามลำดับ ราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำกว่าพาร์ที่ 1.00 บาท และซื้อขายด้วย P/BV ปี 60 ที่เพียง 0.6 เท่า